3708

ก่อนจะตกลงซื้อขายอะไรแน่นอนว่าเราต้องศึกษาสินค้านั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียใจทีหลัง บ้านเองก็เช่นกัน ทั้งยังสำคัญมากสำหรับทุกคนในครอบครัว เพราะเราต้องอาศัยอยู่ที่นี้อีกนานจึงต้องทำให้แน่ใจก่อนว่าใช่จริง ๆ ซึ่งวันนี้ Home Buyers มีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก เป็น 10 เคล็ดลับ วิธีการเลือกบ้านใหม่ ทั้งรายละเอียดเล็กน้อยไปจนถึงภาพรวมใหญ่ที่ควรดู จะมีเคล็ดลับไหนบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย!

1. ทำเล ทำเล ทำเล

ทำเลที่ดีหมายถึง ทำเลที่เราสามารถเดินทางไป-มาได้สะดวก มีระบบขนส่งสาธารณะ ใกล้สาธารณูปโภคและสาธารณูปการต่าง ๆ ครบถ้วน คือตอบสนองปัจจัย 4 เราได้ อีกทั้งต้องสามารถมาถึงสถานพยาบาลได้รวดเร็วในยามเจ็บป่วย มีสถานศึกษาสำหรับบุตรหลาน มีตลาดสำหรับจับจ่ายใช้สอย ที่สำคัญไม่ควรไกลจากสถานที่ทำงานมากเกินไป และถึงแม้จะไกลก็ขอให้ไกลแบบที่เส้นทางไปถึงอย่างสะดวก หรือมีเส้นทางลัดเลาะจะยิ่งดี

2. เงิน เงิน เงิน

เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องถัดมาที่ควรดูเพื่อพิจารณาราคาบ้านที่เหมาะสมกับเรา จากนั้นจึงมาดูทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมกับงบประมาณต่อ ก่อนซื้อบ้านจึงควรพิจารณาเรื่องเงินเก็บ รายได้ และค่าใช้จ่ายให้ละเอียดถี่ถ้วนเสียก่อน ซึ่งมีวิธีการประเมินเบื้องต้นคือ โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้ประมาณ 80% ของราคาบ้าน ดังนั้นเราควรมีเงินเก็บประมาณ 20% ของราคาบ้าน (เงินดาวน์) หรืออย่างน้อยให้พิจารณาเบื้องต้นว่าเราสามารถผ่อนดาวน์ได้แน่ ๆ เสียก่อน

3. เลือกผู้ประกอบการที่ไว้ใจได้

หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ซื้อบ้านไม่ได้บ้าน ซื้อคอนโดไม่ได้คอนโด” เพราะผู้ประกอบการมีปัญหาสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากขาดเงินทุน สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้ หรือยอดขายไม่ออกตามเป้า เป็นต้น  ดังนั้นควรเลือกซื้อบ้านจากผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำมาอย่างยาวนาน มีประวัติหรือประสบการณ์การสร้างให้เห็นชัดเจน แล้วเราก็ควรเข้าไปสำรวจเสียหน่อยว่าจริงแค่ไหนอย่างไร เพื่อมาประกอบการตัดสินใจอีกครั้ง

4. เลือกตำแหน่งบ้าน-คอนโด จากผังโครงการให้รอบคอบ

ข้อนี้สำคัญไม่แพ้กัน คล้ายกับการเลือกทำเลที่ดี โดยเราต้องดูผังโครงการทั้งหมดแล้วดูความต้องการของเราและคนในบ้านเป็นแบบไหน ชอบความสงบ ความครึกครื้น หรือความสะดวกแค่ไหนอย่างไร อาทิ ต้องการบ้านที่อยู่ด้านหน้าโครงการ บ้านติดสโมสร ติดสวน ติดสระว่ายน้ำ หรือบ้านในซอยตื้น ๆ เป็นต้น

ซึ่งแต่ละตำแหน่งบ้านมักมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เช่น บ้านบริเวณหน้าโครงการมักอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ใกล้ทางเข้าออกหมู่บ้าน แต่มักจะพลุกพล่าน ส่วนบ้านติดสโมสร สวน หรือสระว่ายน้ำจะสะดวกในการใช้สอยสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ แต่มักขาดความเป็นส่วนตัว มีเสียงดังจากผู้ใช้บริการ บ้านที่อยู่ในซอยตื้น ๆ อาจได้เพื่อนบ้านน้อยหน่อย แต่สงบ รถเข้าออกน้อย เป็นต้น  อาคารชุดก็เช่นเดียวกัน คือห้องติดลิฟต์ ติดบันไดหนีไฟ มักสร้างความอุ่นใจให้ผู้ซื้อในยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันอาจมีเสียงจากลิฟต์ หรือมีเพื่อนบ้านมายืนสูบบุรี่บริเวณทางหนีไฟบ่อย ๆ ก็ได้ จึงควรดูเลือกพวกนี้ประกอบการตัดสินใจด้วย

5. เลือกทิศที่ตั้งของหน้าบ้าน หรือหน้าต่างห้องคอนโด

อันนี้เราจะดูตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นทิศทางฮวงจุ้ยอย่างที่หลายคนคิด นั่นคือ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกตอนเช้า แล้วตกทางฟากตะวันตกตอนเย็น ฉะนั้นใครที่อยากได้แดดตอนเช้าก็เลือกหน้าบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก หรือเยื้อง ๆ มาทางทิศเหนือก็ยังได้ ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสายและไม่อยากให้แดดมารบกวนตอนเช้า แนะนำให้เลือกทิศทางตรงกันข้ามคือหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก หรือเยื้องไปทางทิศใต้ก็จะได้แดดเต็ม ๆ ในช่วงบ่ายถึงเย็นแทน

6. แบบบ้านควรตอบสนองการอยู่อาศัยที่ครบถ้วน

บ้านที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี คือบ้านที่ผ่านการศึกษาวิเคราะห์เรื่องการตอบสนองผู้อยู่อาศัยมาแล้ว และมักเป็นบ้านที่มีฟังก์ชั่นให้เลือก ดังนั้นก่อนเลือกซื้อบ้านเราต้องพิจารณาถึงจำนวนคนในครอบครัว อายุ เพศ วัย ประกอบกัน เช่นครอบครัวใหญ่ มีคนเยอะ ก็ควรเลือกบ้านที่มีห้องน้ำเพียงพอ, ครอบครัวเล็ก ห้องน้ำไม่ควรเยอะเกินไปพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการทำความสะอาดตามมา หรือครอบครัวที่มีผู้สูงอายุควรเลือกบ้านที่มีการห้องนอนอยู่ชั้นล่าง เป็นต้น ที่สำคัญควรพิจารณาให้ครอบคลุมถึงพื้นที่จอดรถ ครัว พื้นที่ซักล้าง บวกกับในอนาคตถ้ามีการต่อเติมเกิดขึ้น บ้านหลังนี้ต้องไม่มีปัญหาพื้นที่ทรุดตัวหรือร้าวเกิดขึ้นตามมา

7. อย่าลืมดูวัสดุก่อสร้าง และการตกแต่ง

ต่อเนื่องมาจากข้อด้านบน เพราะส่วนใหญ่ที่เกิดปัญหามักจะเป็นเรื่องพื้น ผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ต่าง ๆ แตกต่างกัน หมายถึงการเลือกใช้สุขภัณฑ์แต่ละแบรนด์ย่อมมีคุณภาพ ดีไซน์ และราคาก็ต่างกันไปอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องสุขภัณฑ์จึงเป็นเรื่องที่เราเห็นและรับรู้ได้ชัดเจน

  • ในส่วนพื้นผนังที่มีหลายรูปแบบนั้น จุดนี้ควรดูให้ละเอียดเช่นกัน อาทิ อิฐมอญมีความทนทานสูง แข็งแรงปานกลาง-สูง กันร้อนได้ดี แต่มักอมความร้อนแล้วถ่ายเทเข้าบ้านตอนค่ำ ๆ ส่วนอิฐบล็อคไม่ค่อยแข็งแรงและมีความทนทานต่ำ แต่มีโพรงข้างในก็ทำให้ข้างในร้อนไม่มากเท่าอิฐมอญ และในส่วนอิฐมวลเบาจะมีความแข็งแรงน้อย-ปานกลาง ความทนทานปานกลาง ถ่ายเทความร้อนได้ยาก บ้านจึงไม่อมความร้อน หรือปัจจุบันที่มักนิยมใช้พื้นและผนังสำเร็จรูปแทน อันนี้ก็ถือว่าช่วยเรื่องความสะดวกรวดเร็วในการก่อสร้าง ประกอบกับมีความแข็งแรงมากของระบบ Precast แต่ในทางกลับกันการทุบ การเจาะเพื่อการตกแต่ง และแก้ไขอาจทำได้ยากกว่าแบบอื่น
  • เรื่องการทาสีหรือวอลล์เปเปอร์ภายในก็เป็นอีกเรื่องที่ควรดู ซึ่งมีความชอบส่วนตัว ความสะดวกและการดีไซน์ของแต่ละบ้านแตกต่างกัน หมายถึงการมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันนั่นเอง เช่น วอลล์เปเปอร์มักเนี๊ยบ เก็บรายละเอียดได้ดี พื้นผิวดูมีมิติ มี Texture มีอายุใช้งานน้อยกว่าการทาสี หลุดลอกภายหลัง ส่วนการทาสีส่วนใหญ่มักเกิดปัญหาการเปรอะเปื้อนมากกว่า แต่ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีเรื่องสีเข้ามาช่วยแล้ว เราเลือกได้เลยว่าชอบแบบไหนอย่างไร

8. อย่าลืมต่อรอง

ใครว่าซื้อบ้านแล้วจะต่อรองราคาบ้านไม่ได้ เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่มีราคาสูงอย่างบ้านใหม่หรือคอนโดใหม่ ยิ่งต้องต่อราคาก่อนซื้อเสมอ โดยเริ่มต้นดูราคามาตรฐาน Price List จากโครงการก่อน แล้วดูต่อว่าในตอนนั้นมีรายการโปรโมชันส่วนลดตามวาระโอกาสต่าง ๆ ให้สอบถามหรือไม่ ถ้าไม่มีก็สอบถามไปเลยว่ามีหรือเปล่า เราอยากได้ส่วนลดพิเศษที่บริษัทอาจลดให้เราได้เพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งอำนาจตัดสินใจจะอยู่ที่พนักงานขาย ผู้จัดการขาย ผู้จัดการโครงการ หรืออย่างน้อยตอนต่อรองเราอาจได้ของแถมแทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ หรือได้ค่าธรรมเนียมการโอนต่าง ๆ ก็ได้ แต่เรื่องนี้โครงการของบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์จะมีความยืดหยุ่นเรื่องการต่อรองมากกว่า

9. ดูฮวงจุ้ย บ้าน คอนโด

สำหรับสายมูหรือผู้ชื่นชอบด้านโหราศาสตร์และเรื่องฮวงจุ้ยบ้านแล้ว ต้องศึกษาเรื่องปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกับฮวงจุ้ยให้ดี  อาทิ การดูทิศทางบ้าน รูปทรงของบ้าน แบบแปลนบ้าน ตำแหน่งของห้องต่างๆ  รวมไปถึงเรื่องสีสัน การจัดวางเข้าของ และวันเดือนปีเกิดของเจ้าของบ้านว่าแมทช์กันหรือเปล่าด้วย แต่เรื่องนี้เป็นความสบายใจส่วนบุคคล หากไม่ทำให้ใครเดือนร้อนแล้วเราสบายใจก็สามารถทำได้เลย ซึ่ง www.realestate-chonburi.com ก็มีศาสตร์การดูฮวงจุ้ยตามแนววิทยาศาสตร์ อ้างอิงจากตรรกะความเป็นจริงมาแนะนำกัน ไปศึกษากันได้นะคะ

10. มั่นใจ ตัดสินใจ แล้วติดตาม

เมื่อทำตามเคล็ดลับการซื้อบ้านใหม่และคอนโดใหม่ทั้งหมดเรียบร้อย ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะเราศึกษาเรื่องต่าง ๆ ที่ควรรู้ของ ‘บ้านใหม่’ มาแล้ว ทำขั้นตอนต่อไปได้เลยนั้นคือการจ่ายเงินจอง นัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ชำระเงินดาวน์เป็นงวด ๆ พร้อมติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งสร้างเสร็จพร้อมโอน ข้อนี้สำคัญมาก เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านนี้จะไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง แต่เราต้องตรวจสอบด้วยความละเอียดรอบคอบ สิ่งใดที่ต้องแก้ไขปรับปรุงก็ให้แจ้งกับทางโครงการทันที เมื่อเขาแก้ไขเสร็จแล้วค่อยลงนามรับมอบ ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อ แล้วนัดวันโอนกรรมสิทธิ์ต่อไป โดยเราอาจไปด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้ประกอบการจัดการแทนก็ได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เคล็ดลับ วิธีการเลือกบ้านใหม่ ที่นำมาฝากนี้ เป็นสาระดี ๆ ที่ควรรู้และควรทำตามทุกข้อเลยใช่ไหมล่ะคะ เพราะการมี ‘บ้านใหม่’ ถือเป็นเรื่องสำคัญกับทุกคนในครอบครัว เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านหลังนี้ไปอีกนาน ดังนั้นบ้านที่จะซื้อต้องดีจริง ครบถ้วนจริง สะดวกกับตัวเองและครอบครัวจริง ๆ จะได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขทุกวันเลย 

Scroll to Top